ตำนาน!เชียเรอร์-อองรี2คนแรกเข้าฮอลล์ออฟเฟมพรีเมียร์ลีก

อลัน เชียเรอร์ กับ เธียร์รี่ อองรี ได้เป็น 2 คนแรกที่เข้าสู่หอเกียรติยศของ พรีเมียร์ลีก โดยทั้งคู่ต่างก็บอกว่ารู้สึกเป็นเกียรติสุดๆ

รรจุเข้าสู่หอเกียรติยศ (ฮอลล์ ออฟ เฟม) ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เพิ่งมีการจัดขึ้น ส่งผลให้พวกเขาเป็น 2 คนแรกที่ได้รับเกียรติดังกล่าว

สำหรับเกณฑ์การเลือกคนในปีนี้นั้น ก็คือต้องเป็นคนที่แขวนสตั๊ดไปแล้วเมื่อนับจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม ปี 2020 โดยที่ เชียเรอร์ ถึงขั้นเคยพา แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครอง 1 สมัย รวมถึงเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ในตอนนี้ด้วย หลังยิงไป 260 ลูก จากการลงเล่น 441 นัด ส่วน อองรี เคยเป็นดาวซัลโวสูงสุดต่อฤดูกาลของ พรีเมียร์ลีก 4 หน รวมถึงทำได้ 175 ประตูจากการลงเล่นในลีกให้ อาร์เซน่อล 258 นัด ซึ่งเขาก็ได้แชมป์ลีกร่วมกับ “ไอ้ปืนใหญ่” 2 สมัยด้วย และหนึ่งในนั้นคือการเป็นแชมป์แบบไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาลในซีซั่น 2003-04

ทั้งนี้ เชียเรอร์ กล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเลือกเข้าสู่หอเกียรติยศตั้งแต่หนแรก ทั้งที่ใน พรีเมียร์ลีก เคยมีนักเตะเก่งๆ อีกตั้งหลายคน “เมื่อย้อนนึกถึงเหล่านักเตะชั้นยอดที่เคยเล่นใน พรีเมียร์ลีก อยู่ตลอดทุกสัปดาห์และทุกปีแล้วนั้น มันก็ทำให้ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเลือกเข้าสู่หอเกียรติยศ ผมต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคน รวมถึงกุนซือกับโค้ชทุกรายที่ผมเคยร่วมงานด้วย”

“สิ่งเดียวที่ผมตั้งการคือการเป็นนักเตะอาชีพ ผมฝันที่จะได้เป็นอย่างนั้น ผมฝันที่จะได้แชมป์มาครอง และฝันที่จะทำประตูที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในสภาพที่ใส่เสื้อดำ-ขาวเบอร์ 9 ให้ได้ ทุกอย่างมันยอดเยี่ยมมากๆ ผมสนุกกับทุกนาทีเลย”

ส่วน อองรี เผยว่าดีใจที่ได้รับเลือกเข้าหอเกียรติยศพร้อมกับตำนานระดับ เชียเรอร์ “การได้รับเลือกร่วมกับ อลัน เชียเรอร์ ในฐานะ 2 คนแรกที่ได้เข้าสู่หอเกียรติยศของ พรีเมียร์ลีก มันเรียกได้ว่ายิ่งกว่าคำว่าพิเศษ ตอนที่ผมเป็นเด็กน่ะผมพยายามที่จะทำให้มั่นใจว่าตัวเองจะมีรองเท้าสักคู่หนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับได้เข้าสู่หอเกียรติยศเลย”

“ระหว่างอาชีพการเล่นของผมนั้น ผมอยากเล่นให้เต็มที่และทำให้มั่นใจว่าตัวเองจะสู้เพื่อเหตุผลที่เหมาะสม เพราะแฟนๆ ทุกคนอยากเห็นอะไรแบบนั้น ถ้าตอนที่ผมเริ่มอาชีพการเล่นพวกคุณถามผมเกี่ยวกับเรื่องหอเกียรติยศแล้วล่ะก็ ผมก็คงไม่เชื่อพวกคุณหรอก มันเป็นเกียรติอย่างมาก”